วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

9 วิธี “รัก” อย่างไร ไม่เป็นทุกข์

9 วิธีรักอย่างไรไม่เป็นทุกข์
เรียบเรียงโดย เศรษฐินรี เวเนส
 
ก่อนที่ทุกข์อันเกิดจากความรักจะรุมเร้า วันนี้เรามี 9 วิธี “รัก” อย่างไร ไม่เป็นทุกข์ มาฝากค่ะ
       
1.เราควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง เพราะคนอื่นเป็นเพียงโบนัสที่เพิ่มเข้ามา 


2.ควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของเรา เช่น เมื่อคนที่เรารักไม่รักเรา แต่เขามีความสุขของเขา แม้เราจะเศร้าก็ยังคิดได้ว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข


3.ลดความคาดหวัง แม้เราจะเป็นปุถุชนซึ่งคงตัดความคาดหวังไม่ได้ แต่ถ้าเรายิ่งคาดหวังจากอีกฝ่ายน้อย โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น


4.ยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านสรีระและความคิดของผู้อื่น ความคิดไม่ตรงกันนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ หากฝ่ายหนึ่งไม่พยายามทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกันและพยายามเข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดต่างกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด หากเข้าใจและยอมรับได้แล้ว เมื่อเห็นเขาทำตัวไม่ถูกใจ ไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน เราก็จะปรับตัวให้เข้ากับเขาและมอบความรักให้ได้ง่ายขึ้น


5.รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ความรักจึงจะยืนยาว เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก เพลงโปรด ฟังซ้ำ อาหารจานประจำ กินบ่อยก็เบื่อ ความรักที่เคยจี๋จ๋าหวานแหวว อาจจืดจางลง แต่ยังคงความผูกพันและสัมพันธ์อันดี หรือแม้จะเลิกราร้างห่าง บางคู่ก็ยังเป็นเพื่อนรู้ใจต่อกันได้


6.ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว จะต้องมองถึงความต้องการของเขาด้วย จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าเราอุตส่าห์หวังดี ยอมเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า


7.ความเกรงใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคนใกล้ชิดสนิทกัน มักคิดว่าจะสามารถทำอะไรตามใจตัวได้แทบทุกเรื่อง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคนไป


8.พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีมอบความรักที่ควรทำ บางคนละเลยว่าอยู่ด้วยกันมานาน เรื่องดีเขาคงรู้อยู่แล้วไม่ต้องชม จึงเอาแต่พูดถึงสิ่งไม่ดีหรืออยากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลง เอาแต่บ่นโดยไม่เคยชม คนฟังก็ท้อใจเหมือนกัน
       
9.การแสดงออกของความรัก ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลยอีกฝ่ายคงไม่รู้ เพราะเขาไม่มีตาทิพย์แต่การแสดงความรู้สึกแค่ไหน อย่างไร คงต้องดูว่าเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการด้วย ส่วนความต้องการของเราก็ควรบอกตรงๆ ไม่ใช่คาดหวังให้คู่ของเราเป็นหมอดู คอยเดาใจ

จงอย่าหลอกตัวเอง

จงโง่ที่คิดว่า.....ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น 
จงโง่ที่คิดว่า.....ใครบางคนให้ความสำคัญกับตัวเรามากกว่าคน อื่น 
จงโง่ที่คิดว่า..... คนที่เรารัก เค้าจะรักเราคนเดียว 
จงโง่ที่คิดว่า..... คนที่เราดีใจเมื่ออยู่ใกล้เค้า จะไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่ทำให้เราเสียใจที่ สุด 
จงโง่ที่คิดว่า..... เรามีความสำคัญกับใครคนหนึ่งมากจนเค้าขาดเราไม่ได้ 
จงโง่ที่คิดว่า..... การโกหกจะไม่เกิดขึ้นระหว่างคู่รักที่รักกันจริงๆ 
จงโง่ที่คิดว่า..... คำหวานจากปากเค้า เค้าพูดเพราะเป็นห่วงเราจริงๆ 
จงโง่ที่คิดว่า..... เวลาที่เราต้องการเค้าที่สุด เค้าจะอยู่กับเราเสมอ 


จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า.......ความพยายามบางครั้งมันก้อเป็นแค่ความพยายาม 
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......อย่าหวังว่าใครจะเห็นเราสำคัญมากไปกว่าตัวเค้าเอง 
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......คนที่เรารัก....บางทีเค้าก็มีคนที่เค้ารัก 
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......คนที่เราอยู่ใกล้เค้าแล้วมีความสุขอาจ เป็นคนเดียวกันกับคนที่ทำให้เราเสียใจที่สุด 
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......คำหวานจากปากเค้า เค้าพูดเพียงเพราะเค้าชอบพูดคำหวานกับใครๆ เสมอ...
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......การโกหกเกิดขึ้นตลอดเวลาไม่ว่าใคร 
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......คนที่เรารักอาจเป็นคนเดียวกันกับคนที่ไม่เคยรักเรา 
จงฉลาดพอที่จะเข้าใจ ว่า......เวลาที่เราต้องการเค้าที่สุดอาจ เป็นเวลาเดียวกันกับเวลาที่เค้าหมดรักเรา แล้ว 


จง...เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง 
จง...อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง 
จง...ฟุ่มเฟือย น้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ 
จง...ประหยัดสิ่ง ที่จำเป็นไว้ 
จง…คิดก่อนทุกครั้ง ที่จะปล่อยเงินออกจากมือ 
จง...ฉลาดพอที่จะ รู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง 
จง...โง่พอที่จะ เชื่อในปาฏิหาริย์ 
จง...เต็มใจจะแบ่ง ปันความสุขของตัวเอง 
จง...เต็มใจที่จะ แบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น 
จง...เป็นผู้นำหาก ทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนราง 
จง...เป็นผู้ตามหาก ตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน 
จง...เป็นคนแรกที่ แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง 
จง...เป็นคนสุดท้าย ที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน 
จง...มองเพียงแค่ ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม 
จง...มองไปยังจุด หมายปลายทางให้แน่ใจ ว่าไม่ได้กำลังเดินผิดทาง 
จง…ใช้เวลามอง หรือ ให้โอกาสกับตัวเองที่จะเรียนรู้คนที่เขาบอกรักคุณ 
จง...รักคนที่รัก คุณ แม้อีก 5 ปี 10 ปี หรือ 50 เขาก็ยังรักคุณ 
จง...รักคนที่ไม่ รักคุณแล้ว...สักวันนึงเค้าอาจจะเปลี่ยนใจมารักคุณ (อันนี้คิดว่าไม่นะค่ะ)
จง…อย่าปล่อยให้คน ที่รักคุณหลุดลอยไป (ลูกต้องอยู่กับเราค่ะ)


สุดท้าย จง…อย่าหลอกตัวเอง 

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

เป็นภรรยาแบบไหนดี?

 

ภรรยา 7 ประเภท ในคัมภีร์พระไตรปิฎก

คนโบราณว่า ชายหนุ่มจะเลือกสตรีมาเป็นคู่ครอง ควรดูให้ครบ ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ถ้าหาได้ไม่ครบก็ควรเลือกเอาคุณสมบัติ คือ ถึงจะไม่ได้เมียสวย เมียรวย ก็ขอให้ได้เมียดี ดีแค่ไหน อย่างไรนั้นพูดยาก แล้วแต่ความเหมาะสมและความชอบส่วนตัว 

ผู้หญิงบางคนจู้จี้ ขี้บ่น ขี้นินทา ชายบางคนอาจเห็นว่าเหมาะสมจะเป็นภรรยาตน เพราะอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงาปาก ฟังเธอนินทาคนอื่นเพลินไป อย่างนี้ก็มี 

คัมภีร์พระไตรปิฎก พูดถึงภรรยาไว้ 7 ประเภท คือ 

(1) ภรรยาเยี่ยงเพชฌฆาต ได้แก่ ภรรยาล้างผลาญประเภทคู่เวรคู่กรรม คิดแต่จะทำลายสามีให้ย่อยยับ จนกระทั่งทำลายชีวิต 

(2) ภรรยาเยี่ยงโจร ได้แก่ ภรรยาปล้นทรัพย์ประเภท “กะเชอก้นรั่ว” หามาได้เท่าใดไม่พอใช้จ่าย ใครมีภรรยาชนิดนี้ ต่อไปให้ร่ำรวยขนาดไหน ไม่ช้าก็หมดตัว 

(3) ภรรยาเยี่ยงนาย ได้แก่ ภรรยาที่ทำตนเหนือสามี ดูถูกสามีว่าด้อยกว่าตน ภูมิใจนักหนาที่ได้แสดงตนให้คนอื่นเห็นว่าสามีเสมือนลูกไก่ในกำมือตน จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด 

(4) ภรรยาเยี่ยงแม่ ได้แก่ ภรรยาที่รักเอ็นดูสามีเสมือนแม่รักและเอ็นดูลูก ปรนนิบัติและเป็นห่วงสามีสารพัด ไม่ทอดทิ้งสามีไม่ว่ากรณีใดๆ 

(5) ภรรยาเยี่ยงน้องสาว ได้แก่ ภรรยาที่ทำตนดุจน้องสาว สามีภรรยาเช่นนี้มักทะเลาะเบาะแว้งกระทบกระทั่งกันเรื่อยด้วยสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ แบบพี่ทะเลาะกับน้อง แต่ก็ตัดไม่ตายขายไม่ขาด 

(6) ภรรยาเยี่ยงเพื่อน ได้แก่ ภรรยาที่เป็นเพื่อนคู่คิดของสามีเหมือนเพื่อนรัก คอยปรึกษาหารือกันและกัน ให้เกียรติกัน ช่วยงานกันและกัน เช่นสามีภรรยาเป็นครูด้วยกัน ช่วยกันตรวจการบ้านเด็ก หรือสามีเป็นนักเขียน ภรรยาช่วยค้นข้อมูล ช่วยตรวจทานต้นฉบับให้ เป็นต้น 

(7) ภรรยาเยี่ยงทาสี ได้แก่ ภรรยาที่ยอมให้สามีดุด่าสับโขกตบต่อยทุบตี ยอมทนเพราะ “รัก” สามีสุดหัวใจ ภรรยาบางคนได้สามีเป็นปีศาจสุรา ต้องวิ่งซื้อน้ำแข็ง โซดา ทำกับแกล้มเลี้ยงปีศาจและเพื่อนปีศาจไม่เว้นแต่ละวันก็มี สามีพึงทราบว่ามี 7 ประเภทเหมือนกัน สามีภรรยาทั้ง 7 ประเภทนี้มีอยู่ทั่วไป ใครเป็นคู่ครองแบบไหนก็โปรดพิจารณาเอา ถ้าที่เป็นอยู่แล้วเห็นว่าไม่เหมาะสม ไม่ดี ก็อาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นตามต้องการ ไม่มีอะไรสายเกินแก้ ถ้าแน่วแน่แก้ไขจริงจัง 
This entry was posted in

ตัดใจไม่ได้ทำยังไงดี?

ถ้าใครสักคนบอกเลิกคุณแต่คุณยังตัดใจไม่ได้ลองวิธีนี้ดูค่ะ

 

ถ้ายังลังเล ตัดใจไม่ได้ว่าเอาไงดีหรือว่าปลงใจไม่ลงสักทีลองใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งค่ะ

เดินเข้าไปบอกรักเขาดูสิ จะจะไปเลย จะได้รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา 



ถ้าเขาปฏิเสธด้วยเหตุผลใดก็ตาม ได้ยินจากปากเค้าเองแล้ว คราวนี้แหละจะตัดใจได้เลย 

เพราะเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเมื่อต้นเหตุถูกตัด ผลคือความกังวลใจ ตัดไม่ตัดก้อต้องตัด



ถ้าทำอย่างที่แนะนำแล้วพึงระวังด้วยล่ะ พอถูกปฏิเสธแล้วจะมากลุ้มใจอีกว่า

ทำไมเธอถึงไม่รักฉัน? ฉันไม่ดีตรงไหนหรอ? เอาอีกกลุ้มเพราะเค้าไม่สนองตอบอีก 



ความรักเป็นสิ่งสวยงามถ้ารู้จักรักให้เป็น

ความรักจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน 

ให้มุ่งมั่นทำในที่สิ่งที่ตั้งใจไว้จนสำเร็จ แต่ถ้าไม่ได้เป็นไปตามที่เราฝัน

ก็ควรจะหยุดมัน มันก้อแค่"คนที่ไม่รักเรา" ก็เท่านั้น

 

เรียบเรียงโดย : เศรษฐินรี เวเนส


จะตัดใจจากคนรักเก่าได้อย่างไร?




มีคนมากมายเคยสร้างคำถามให้กับตัวเองว่า
 อีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี จึงจะลืมคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข 
เคยแชร์ชีวิต 
เคยใช้เวลาร่วมกัน 
เคยเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุด 
วันนี้กลายเป็นแฟนเก่าลงไปได้บ้าง

ที่เห็นและเป็นอยู่ปัจจุบันคือ 
ใจหาย หดหู่ เคว้งคว้าง อ้างว้าง 
มีแต่ความสับบสน 
ความเหงาและความเดียวดายในชีวิต

การจะตัดใจอย่างรวดเร็วนั้น
คงเป็นไปไม่ได้ 
แต่ถ้าไม่อยากเจ็บปวด
กับความทรงจำเหล่านั้น
 ต้องเลิกคาดหหวังว่าจะเป็นเหมือนเดิม 
ให้คิดเสียว่า 
เรื่องที่ผ่านไปปแล้ว 
ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม 
กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ 
คนที่จบไปก้อแค่ส่วนหนึ่งในชีวิต
 จึงอย่าคร่ำครวญไปเลย
 มุ่งมั่นทำวันนี้ให้ดีที่สุด 
ทำชีวิตให้สดชื่นเพื่อรับ"รักแท้"
จะดีกว่า

แน่นอนว่ายังไงคุณก้อแอบมีน้ำตาในวันเหงา
 เมื่อคิดถึงแฟนเก่า
 แต่ถ้าคุณร้องให้เพราะคิดถึง
แต่ไม่ได้อยากกลับไปเป็นเหมือนเก่า
นั่นแสดงว่าคุณเข้าใจชีวิตและแข็งแกร่งขึ้น 

ความเจ็บปวด
อาจจะปางตายแต่อย่างน้อย
คุณก้อยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่ตาย
ไปตั้งแต่วันแรกที่เลิกกันไม่ใช่เหรอ 
นี่แหละมนุึษย์มักจะถูกสร้างขึ้นมาให้แข็งแกร่ง
โดยธรรมชาติ

แต่ถึงแม้คุณจะลืมเลือนไป 
เชื่อเถอะสักวันหนึ่งก็จะนึกขึ้นมาอีก
 ฉนั้นคุณควรเลือกจดจำแต่สิ่งที่ดีๆเอาไว้
 อย่างน้อยช่วงหนึ่งก็มีความสุขที่ได้รัก
 และเคยรักกัน 

ที่สุดบทสรุปที่จะทำให้ตัดใจได้
 ก้อคงไม่พ้้นถ้อยคำสั้นๆ"เวลาเท่านั้นที่จะเยียวยาทุกสิ่ง"
 แม้การตัดใจจะเป็นเรื่องที่ยากมาก
 แต่ก้ออย่าพยายามงมงายอยู่กับคนที่เลิกกันไปแล้ว
 ขอให้มุ่งตรงไปยังอนาคต และเริ่มต้นมีรักใหม่
 เพราะการที่คุณตัดใจไม่ได้นั้น
เพราะคนยังไม่เจอคนใหม่ที่ถูกใจ

ใครว่า ความรักคือความทุกข์?

ความรักมันคือทุกข์จริงหรือ? 



ความรักจะไม่ทุกข์
ถ้ารักกันได้ตลอดทั้งปีทั้งชาติ 
(ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ) 
แต่ถ้ามีอันนี้ก็แสดงความยินดีด้วย 
ส่วนใหญ่ก้อรักกันได้อาจจะแป๊ปเดียว 
หรืออาจจะถึง 10 ปี 20 ปี ก็ว่ากันไป 
แต่สำหรับประเด็นเรื่อง
เมื่อเรามีพบกัน ก็ต้องมีจาก 
เป็นของธรรมดาของโลก 
ถ้าเรารักใครแล้วเนี่ย
 เราก็ต้องการให้เขามีความสุข 
เราก็อยากอยู่กับเขา 
อยากอยู่ใกล้กัน อยากนั่น อยากนี่ 
สารพัด จะอยาก แล้วพอไม่ได้ดังใจ 
เมื่อนั่นล่ะ ทุกข์ก็ต้องตามมา 
นี้ก็เป็นไปตามอำนาจกิเลสตัณหา 
ที่เราเองก็นึกว่ามันสุข 
แต่พอคิดจริง ๆ นะ 
มันต้นตอความทุกข์เลย 


ที่สำคัญก็คือ 
ไม่มีใครหนีพ้นความตายได้สักคน 
ทุกคนที่เรารักอ่ะ 
ไม่นานก็ต้องจากกัน 
แล้วถ้าเกิดคนที่เรารักเขาตายไปจริงๆ 
ตอนนั้นใครมันจะมานั่งหัวเราะได้จริงไหม
มันก็ต้องพากันร้องห่มร้องไห้ตาบวมกันไป
ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งฝังใจมาก 
(ยกเว้นเราตายก่อนอันนี้คนข้างหลังเขาก็ต้องทุกข์อีกล่ะ) 

ความรักคือสุข 
แต่สักวันก็ต้องจากกันอยู่แล้ว
ซึ่งมันเป็นธรรมดาของโลก
เพราะฉนั้น 
รักกันแบบ พรหมวิหาร 4 ดีที่สุด
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 
อันนี้ไม่ทุกข์แน่นอน 
แต่ถ้ารักแบบทางโลก 
รักแบบอยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอด
อันนี้ก็ต้องรอทุกข์ไว้ได้เลย 







ทุกอย่างในโลกล้วนมี 2 ด้าน
 ไม่มีอะไรที่ดีไปซะหมด
 แล้วก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดีไปซะหมด

ความรักก็เช่นกัน 
มิใช่สิ่งที่ทำให้เกิดแต่ความทุกข์อย่างเดียว

เพียงแต่ว่าในเมื่อเรามีความรัก 
เราจะใช้ความรักให้เกิดความสร้างสรรค์
ทำให้เกิดความสุขทางใจอย่างไร
 เช่นความรักที่มีต่อ พ่อแม่
บุตรธิดา ครูอาจารย์ ชาติ ศาสนา เพื่อนมนุษย์ 

แต่บางครั้ง
 ความรักก็ทำให้เกิดความทุกข์ได้เช่นกัน
 อาจจะด้วยเพราะทำให้เกิดขาดสติยั้งคิด
 ใช้อารมณ์ที่เกิดจากความรักเป็นตัวตัดสินแทน 
ซึ่งน่าจะใช้ปัญญา เหตุและผล มากกว่า
  ดังพระราชนิพนธ์ใน รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์
 เกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาวไว้ว่า

ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผลิขังไว้
ย่อมแล่นจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหางจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้างก็ยิ่งคลั่ง บ่หวนคิดถึงเจ็บตาย.

ดังนั้น 
เมื่อเกิดความรัก
ก็ควรใช้ความรักให้เกิดประโยชน์
 ให้เกิดผลดีต่อตนเองและผู้อื่น
 แต่เมื่อเห็นว่าตนนั้นจะถูกความรักครอบงำ
จนไม่สามารถที่จะใช้สติปัญญาไตร่ตรองได้
ก็ความรีบหยุดแล้วพิจารณาด้วยปัญญา
หาทางแก้ไขซะตั้งแต่เนิ่นๆ 
เพื่อที่จะไม่ให้เกิดทุกข์เพราะรัก 

อยากลืม

การลืมคนที่รักทำได้ยากกว่าการจดจำ 
แต่ก็ไม่ยากเกินไป แรกๆ ภาพเก่าที่เราเคยมีความสุขสนุกสนาน
จะโหมเข้ามาในความทรงจำ
และเราก็จะถามตัวเองว่า ทำไม 
เราผิดอะไร คิดไปวนมาไม่รู้จบ 
สิ่งที่จะทำให้เราฉุกคิดได้ คือ ในขณะที่เรามีความทุกข์ 
ลองหันไปมองภาพคนที่เรารักนักหนา 
เขาอาจกำลังมีความสุขกับเพื่อน หรือ คนรักคนใหม่
ลองตอบตัวเองว่า สิ่งที่เรากำลังคร่ำครวญ และเป็นทุกข์
ให้กับเขานั้น มันคุ้มค่ากันหรือเปล่า 
จงอย่างทรมานตนเองอีกต่อไป 
เพราะถ้าเราไม่รู้จักที่จะรักตัวเองก่อนแล้วไซร้
ฉะไหนเลย เราบอกได้เต็มปากว่า
เรารักคนอื่น 

การพยายามลืมใครสักคนนั้น
มันยากเย็นกว่าการจดจำมากเลยค่ะ 
ยิ่งพยายามลืมเท่าไหร่ ก็จะยิ่งจดจำได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย
 ทางออกที่ดีที่สุดคือการอยู่กับมัน 
อยู่กับความคิดถึง 
อยู่กับมันให้ได้ 
แรกๆ อาจทำใจได้ยาก 
คงเพราะคิดถึงมากกระมัง 
จงใช้ความคิดถึงนั้นมาเพิ่มพลังในการทำงาน 
ในการทำสิ่งต่างๆ 



แต่เมื่อถึงเวลาที่ไม่มีอะไรทำ
 หากได้นั่งคนเดียวคงคิดถึงเขามากเอาการอยู่
 ก็จับเอาความคิดถึงเหล่านั้นมาพิจารณานะคะว่า... 

คิดถึงเขา เพราะอะไร 

ยังรักเขาอยู่หรือ? 

เขามีความดีมากมายให้เราคิดถึง? 

เขาทำให้เรามีความสุข? 

เขาทำดีกับเราอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยให้เราได้มาก่อน? 

หรืออาจจะเป็นเหตุผลอะไรอีกมากมาย ที่ไม่อาจบอกใครได้



                                            


แล้วลองนึกถึงสิ่งเหล่านี้บ้างค่ะ

เคยทะเลากันไหม?
 สาเหตุล่ะ?
 ตอนทะเลากันเป็นยังไงบ้าง
 โทษความผิดให้แก่กันรึเปล่า? 
ทะเลาะกันบ่อยไหม? 
เพราะตอนทะเลาะกันเนี่ย ประมาณว่าสันดานดิบที่เก็บไว้มันจะออกค่ ไม่ออกน้อย ก็ออกมากล่ะน่า 

เขาเคยทำให้เราเสียใจไหม? 

เขาเคยดูถูกเรา หรือครอบครัวเราไหม?
(หากเจอข้อนี้ เลิกเลยดีที่สุด ตัดให้ขาด ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลย) 

เราล่ะ เคยดูถูกเขา หรือครอบครัวเขาไหม? (เค้าคงคิดเหมือนกันค่ะ) 

เราเข้ากับครอบครัวของอีกฝ่ายได้หรือเปล่า?
(อันนี้หากไม่ได้ ปลงอย่างเดียว)


และข้อเสียอย่างอื่นอีกมากมายที่มนุษย์ปุถุชนทั่วไปยังคงมีกันอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะมีอะไร
มากน้อยแค่ไหน 


คนที่รักตัวเองเป็นเท่านั้น 
ถึงจะรักคนที่เรารักหรือคนอื่นได้อย่างชาญฉลาด 
มันเป็นแค่เพียงบททดสอบที่จะให้ก้าวผ่านไปให้ได้เท่านั้นเอง 
เมื่อเวลาผ่านไป 
เมื่อหันมามองตัวเองอีกครั้งในภาพในอดีต 
เราจะบอกตัวเองว่า ...เราทำโง่ๆ แบบนั้นไปได้อย่างไร
เสียเวลา 
เริ่มต้นที่ตัวเราใหม่ ..ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอนะ 

4 วิธีรับมือคนหลายใจ



รับมือคนเจ้าชู้ คนหลายใจง่ายๆด้วย 4 วิธี

เวลาที่คุณรักใครสักคนคุณมักคิดว่าพบแล้วคนที่ดีเลิศประเสริฐศรีคนนี้แหละใช่แล้ว ไม่เคยโกหก ไม่เคยหลอกลวง เป็นห่วงทุกอย่าง ดูแล้วคงจะห่วงมากกว่าแม่บังเกิดเกล้าด้วยซ้ำ(เอ๊ะ....ยังไง5555)
 
คงเป็นคนประเภทไม่สับสนอะไรหรอก ไม่สับสนที่จะไม่เลือกใคร แต่วันดีคืนดีก้อมีคนอื่นมาพัวพัน จนทำให้คุณสับสน 


1. จงปลีกตัวออกมา คิดเสียว่าทำไมคุณต้องไปสับสนกับเค้าด้วยหละ5555
 รักจริงหวังแต่งมันก็คงไม่สามเส้า สี่เส้า หรอกค่ะ จงปลีกตัวออกมาเป็นเพื่อนกัน

2. จงปล่อยเค้าไป คุณคิดหรือว่าในขณะที่เค้า มาเล่าเรื่องการคบคนอื่นให้คุณฟังว่าเขามีใครบ้าง แล้วเขาจะไม่เล่าเรื่องคบคุณให้อีกสามเส้า สี่เส้าเหล่านั้นฟัง 

3. ไม่อยากแย่งใคร ก็ไม่ต้องไปแย่งกับเขาก็หมดเรื่อง ก็ไม่ต้องทำอะไร ก็อยู่ของเราไป เขาจะไปตรงไหนก็เรื่องของเขา ตรงเราก็มีแต่ความเป็นเพื่อน ก็บอกเขาไปเขาจะได้สบายใจที่ไม่ต้องนับเราเป็นหนึ่งในจำนวนของผู้ที่ถูกเลือก

4. อย่ามานั่งทุกข์ไม่เป็นเรื่อง รักมากก็ทุกข์ รักน้อยก็ทุกข์ ไม่มีใครรักก็ทุกข์ คนรักเยอะก็ทุกข์ รักตัวเองดีกว่า รักตัวเองให้มากๆ ดูแลใจตัวเองดีกว่า 


ไม่มีพรข้อไหนที่ให้สมหวังในความรักหรอก นอกจากฝึกให้ใจตนเองเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา จึงจะเป็นที่รักของทุกคนที่พบเห็น เป็นที่รักของทุกภพทุกภูมิ แบบเห็นปั๊บ.....ช่ายเลย
 

ทำไมไม่อยู่ในจุดที่เป็นผู้เลือกและกำหนดทางเดินชีวิตให้ตัวเองหละ?
ทำไมไปอยู่ในกลุ่มของผู้ถูกเลือกหละ?


หยุดคิดได้แล้ว ผ่านแล้วผ่านไป เริ่มต้นชีวิตใหม่ 
พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน...(เพลงของทาทาหนะ)    

เรียบเรียงโดย: เศรษฐินรี เวเนส